Beet Juice Beats Hypertension โดย Nancy, Staff Writer, MedPage Today ทบทวนโดย Robert Kasmer (MD, Associate Clinical Professor of Medicine, University of California, San Francisco and Dorothy Caputo, MA, BSN, RN, Nurse Planner). มีการศึกษาเล็กๆ ได้แสดงความสัมพันธ์ของการดื่มน้ำผลไม้บีทรูท ที่อุดมไปด้วยสารไนเตรท วันละ 1 แก้ว สามารถลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ. ผู้ทำการศึกษาได้แก่ Amrita Ahluwalla (PhD, of Queen Mary University of London) และคณะ ได้พบว่า หลังจากที่ดื่มน้ำบีทรูท จำนวน 250 มิลลิลิตร เป็นระยะเวลา 3 ถึง 6 ชั่วโมง พบว่า ค่าความดันซิสโตลิก ลดลง โดยเฉลี่ย 11.2 มิลลิเมตรปรอท ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ที่ความดันซิสโตลิก ลดเพียง 0.7 มิลลิเมตรปรอท. ภายหลังเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง. ค่าความดันซิสโตลิก ยังลดลงอย่างมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ลดลง 8.5 มิลลิเมตรปรอท) (P น้อยกว่า 0.01) มีหลายการศึกษาที่เพิ่งผ่านมา ได้แนะนำเกี่ยวกับผลไม้ และผักประเภทใบหลายชนิด ที่มีสารอินออร์แกนนิค ไนเตรต (Inorganic Nitrate, NO3) ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ. ภายหลังการบริโภค สาร NO3 (Inorganic Nitrate) เป็นสารตั้งต้น ถูกเปลี่ยนเป็น Inorganic Nitrite (NO2) ซึ่งจะถูกรีดิวซ์ กลายเป็น Nitric Oxide (NO) โดยกระบวนการต่าง ซึ่งสารดังกล่าว จะมีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด. มีข้อมูลจากหลายการ ศึกษาทดลอง ทั้งในสัตว์ทดลอง และอาสาสมัคร คนที่มีสุขภาพดี พบว่า สาร Nitrite ในปริมาณสูง สามารถลดความดันโลหิตได้. เพื่อให้มีความเข้าใจในกลไกทางสรีระวิทยา ของสาร Nitrite , กลุ่มของ Ahluwalia ได้ทดลองเปรียบเทียบผลของการให้ Nitrite ในหนูที่มีความดันโลหิตสูง และหนูที่มีความดันโลหิตปกติ. พวกเขาได้พบว่า สาร Xanthine oxidoreductase (XOR) มีส่วนเกี่ยวข้อง ในกระบวนการ Reductase ของการเปลี่ยนแปลงสาร Nitrite และพบว่า สัตว์ทดลองที่มีความดันโลหิตสูง นั้นมี การลดลงของสาร Nitrite ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง. และพบต่อว่า การให้ยา Allopurinol สามารถห้ามกระบวนการดังกล่าวได้ในสัตว์ทดลองที่มีความดันโลหิตสูง แต่ไม่มีผลต่อสัตว์ทดลองที่ความดันโลหิตปกติ. มีการทำการศึกษาต่อในคน โดยผู้ป่วยจำนวน 15 คน (ประกอบด้วย ผู้หญิง 8 คน และผู้ชาย 7 คน, อายุเฉลี่ย 53 ปี) ที่มีความดันโลหิตมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งยังไม่เคยได้รับยาลดความดันโลหิตมาก่อน ให้ได้รับสาร Nitrite ในน้ำผลไม้บีทรูท ปริมาณต่ำ (13.2 x 10 -3 mol/L) หรือเทียบเท่ากับน้ำที่มีสาร Nitrite 0.07 x 10 -3 mol/L. ในปริมาณสารดังกล่าว มีผลเพียงเล็กน้อย ต่อระดับความดันโลหิตในอาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรง. แต่พบว่า มีผลต่อการลดความดันโลหิตทั้งซิสโตลิก และดัยแอสโตลิกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในกลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่ได้รับน้ำผลไม้บีทรูท เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (P< 0.001) โดยระดับความดันดัยแอสโตลิก พบว่าลดลงมากที่สุด 9.6 มิลลิเมตรปรอท. พบว่ามีการลดลงของ Pulse wave velocity อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P< 0.05) กลุ่มที่ได้รับน้ำผลไม้บีทรูท. การเปลี่ยนแปลงของความดันซิสโตลิก นั้นสัมพันธ์กับค่าระดับ Nitrite ในพลาสมา (r=0.280, P<0.001), และ สัมพันธ์กับการลดลงของความดันซิสโตลิกพื้นฐาน (r=0.561, P<0.05). คล้ายกับในสัตว์ทดลอง , พบว่าเซลล์เม็ดเลือดแดง เป็นส่วนที่มีผล ด้วยค่าระดับสูงของสาร XOR และสามารถยับยั้งด้วยยา Allopurinol ได้. พบว่า ระดับสาร Nitrate และ Nitrite ลดลงเป็นปกติใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับ แต่การลดลงของระดับความดัน ยังคงอยู่ ซึ่งได้มีคำอธิบายว่า อาจสัมพันธ์กับระดับสาร Nitrite ในเนื้อเยื่อ ที่ทำให้มีผลดังกล่าว. การศึกษาดังกล่าวนี้ได้แสดงถึงการลดลงของระดับความดันโลหิต หลังจากการให้สาร Nitrite ซึ่งตอบสนองดีในสัตว์ทดลอง และคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจเป็นแนวทางหนึ่งในการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ที่อาจจะมีผลดี ต่อ cost - effective ต่อระบบสุขภาพ แต่มีข้อควรระวัง ต่อค่าระดับโปแตสเซียมในเลือด สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะการทำงานของไตบกพร่อง.