Morning home blood pressure and cardiovascular events in Japanese hypertensive patients
โดย Kazuomi Kario
วารสารวิชาการ Hypertension 2018;72:854-861.
การศึกษา SPRINT (Systolic Blood Pressure Intervention Trial) ได้แสดงถึงประโยชน์ของการควบคุมระดับความดันโลหิตอย่างเข้มงวด ในกลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มีความเสี่ยงสูงโดยมีเป้าหมายการควบคุมที่ต่ำกว่าปกติ.
การศึกษานี้เป็นการวิเคราะห์ post hoc โดยมีเป้าหมายเพื่อสืบค้นความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฉลี่ยในระยะเวลา 2 ปีของระดับความดันโลหิตที่บ้าน (home blood pressure) กับความเสี่ยงโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ในกลุ่มย่อยที่มีการจัดกลุ่มความเสี่ยงจากการศึกษา the HONEST (Home Blood Pressure Measurement With Olmesartan Naive Patients to Establish Standard Target Blood Pressure).
ผู้ที่เข้าร่วมในการศึกษา the HONEST จำนวน 21,591 คน ถูกจัดกลุ่มลำดับชั้นตามความเสี่ยง ประกอบด้วย
– กลุ่ม SPRINT population (จำนวน 5,823 คน) ได้แก่ ผูู้ป่วยอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานหรือโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน ร่วมกับมี SPRINT-defined cardiovascular risk และมีความดันซิสโตลิก มากกว่าหรือเท่ากับ 130 มิลลิเมตรปรอท.
– กลุ่ม SPRINT-excluded high risk population (จำนวน 5,481 คน) ได้แก่ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานหรือเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน.
– และกลุ่ม non-SPRINT low risk population (จำนวน 10,287 คน) ได้แก่ ผู้ป่วยอื่นๆใน การศึกษา the HONEST.
ผลการศึกษาพบว่า ความเสี่ยงในการเกิดโรค Cardiovascular ในกลุ่ม SPRINT population เท่ากับ 6.32 เหตุการณ์ต่อ 1,000 บุคคล-ปี ซึ่งมากกว่าในกลุ่ม non-SPRINT low risk population (3.39; P โดยระดับความดันซิสโตลิกที่บ้านน้อยกว่า 125 มิลลิเมตรปรอท.
ในกลุ่ม non-SPRINT low risk population มีการแสดงลักษณะของ J-curve ในความสัมพันธ์ระหว่างความดันซิสโตลิกที่บ้านขณะได้รับการรักษาและความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยความเสี่่ยงน้อยที่สุดพบในกลุ่มความดันซิสโตลิกที่บ้าน 135 ถึง น้อยกว่า 145 มิลลิเมตรปรอท.
สรุป การรักษาความดันโลหิตสูงแบบเข้มงวดที่เป้าหมาย ความดันซิสโตลิกที่บ้านน้อยกว่า 125 มิลลิเมตรปรอท น่ามีประโยชน์ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง.
Credit photo : https://images.agoramedia.com/everydayhealth/gcms/cs-type-2-diabetes-blood-pressure-722×406.jpg
