Blood Pressure Variability and Prediction of Target Organ Damage in Patients With Uncomplicated Hypertension
โดย Panagiota Veloudi และคณะ
วารสารวิชาการ American Journal of Hypertension 29(9) September 2016;1046.
บทคัดย่อ
ที่มา
ค่าเฉลี่ยในการวัดความดันโลหิตหลายๆครั้ง (mean blood pressure; mean BP) เป็นค่าการพยากรณ์ถึงการเสียหายของอวัยวะที่เป็นเป้าหมาย (target organ damage; TOD). จากการศึกษาชนิดพรรณา (observational study) หลายการศึกษา พบว่าความสัมพันธ์กันระหว่าง ค่าเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิต (BP variabity; BPV) และ target organ damange แต่ยังมีข้อจำกัดของข้อมูลในระยะยาว.
การศีกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพิจารณาผลของการเปลี่ยนแปลงในค่าเฉลี่ยของระดับความดันโลหิต เปรียบเทียบ BP variabitiy ต่อดัชนีมวลกล้ามเนื้อของหัวใจห้องซ้ายล่าง (left ventricular mass index; LVMI) และ aortic pulse wave velocity (aPWV).
วิธีการศึกษา
ค่าความดันโลหิตเฉลี่ย (mean BP) จาก research-protocal clinic BP (clinic BP) , ค่าความดันโลหิต 24 ชั่วโมง (24 hr ambulatory BP), ค่าความดันโลหิตที่บ้าน แบบ 7 วัน ( 7 day home BP), และ BPV ได้ถูกประเมินในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อน จำนวน 286 ราย พบว่าผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ย 64 ปี (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 8 ปี) โดยเป็นเพศหญิง ร้อยละ 53 .
ค่า reading-to-reading BPV (จาก 24 hour ambulatory BP) และ day-to-day BPV (จาก 7 day home BP) ได้ถูกทำการประเมิน ที่เวลาตั้งต้น และที่ระยะเวลา 12 เดือน. ค่า LVMI ได้ถูกทำการประเมินโดยใช้ 3D Echocardiography และ ค่า aPWV ได้ถูกทำการประเมินโดย applanation tonometry.
ผลการศึกษา
พบว่า ค่าการพยากรณ์ที่รุนแรงทีสุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ LVMI ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิตซิสโตลิกเฉลี่ยที่ 24 ชั่วโมง (mean 24-hour ambulatory SBP) (ค่า P น้อยกว่า 0.02) ในทางเดียวกัน ค่าการพยากรณ์ที่รุนแรงทีสุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ aPWV ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิตซิสโตลิกเฉลี่ยที่ 24 ชั่วโมง (mean 24-hour ambulatory SBP)
(ค่า P น้อยกว่า 0.01) และการเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิตซิสโตลิกเฉลี่ยที่คลินิก (mean clinic SBP) (ค่า P น้อยกว่า 0.001). แต่อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิต BPV จะมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยแปลงของ LVMI หรือ aPWV (P มากกว่า 0.05 ทั้งสิ้น)
สรุป
การเปลี่ยนแปลงของค่าเฉลี่ยระดับความดันโลหิต ที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับ BPV น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการเกิด TOD ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อน จากการศึกษานี้ ค่า BPV ยังมีข้อจำกัดในการนำมาใช้ในทางคลินิก สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มดังกล่าว.
credit image: http://www.abdn.ac.uk/medical/bhs/images/booklet/elderly.gif