The Impact of Left Ventricular Mass on Diastolic Blood Pressure Targets for Patients With Coronary Artery Disease โดย Simon W. Rabkin. วารสารวิชาการ American Journal of Hypertension 29(9) September 2016;1085. บทคัดย่อ ที่มา: ระดับความดันดัยแอสโตลิก (diastolic blood pressure; DBP) สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจโคโรนารี ยังเป็นความท้าทายในการให้ค้นหา เนื่องจากมีความตระหนักว่า ระดับความดันดัยแอสโตลิกที่ต่ำเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อหัวใจ (the J curve hypothesis). วิธีการศึกษา : มวลกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้าย (left ventricular [LV] mass) ได้ถูกทำการประเมินได้จาการตรวจ echocardiogram ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ จำนวน 92 ราย ซึ่งมี coronary blood flow (CBF) ในหลอดเลือดแดง anterior descending (LAD) โดยทำการวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางของหลอดเลือดแดง และ ระดับความดันดัยแอสโตลิก ณ ส่วนปลายต่อจุดที่มีการตีบของหลอดเลือด ผลการศึกษา: CBF มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในผู้ป่วยที่มี LV mass สูงๆ (มากกว่า ค่ามัธยฐาน ที่ 83 กรัม ต่อตารางเมตร) ในกรณีที่ DBP มากกว่าหรือเท่ากับ 75 มิลลิเมตรปรอท. การที่พบลักษณะคลื่นไฟฟ้าหัวใจ QRS voltage สูงๆ (ผลรวมของ S ใน V1 และ R ใน V6) แต่ไม่พบว่ามี LV hypertrophy และค่า DBP น้อยกว่าหรือเท่ากับ 80 มิลลิเมตรปรอท เป็นลักษณะที่แสดงว่ามีการลดลงของ CBF อย่างมีนัยสำคัญ. จากการวิเคราะห์ multivariate พบว่า LV mass มีความสัมพันธ์กับ CBF เมื่อปรับปัจจัยสำหรับ DBP และ ความรุนแรงของ CAD. LV mass จะมีผลต่อ CBF ในกรณีที่ความดัน DBP มากกว่า 70 มิลลิเมตรปรอท ในขณะที่ DBP จะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ CBF เมื่อระดับ DBP น้อยกว่า 70 มิลลิเมตรปรอท. จากการวิเคราะห์ multivariate ยืนยันความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่าง LV mass และ DBP. สรุป: ระดับ DBP ที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิเมิตรปรอท มีความสัมพันธ์ CBF ที่เข้าระดับศูนย์ ที่หลอดเลือด LAD. หาก DBP มากกว่า 70 ที่มี LV mass สูง แต่ไม่พบภาวะ LV hypertrophy จะมี CBF ต่ำ สนับสนุนว่า LV mass มีความสำคัญ หาก DBP ลดลง ในผู้ป่วย CAD. image: https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/ba/Heart_left_ventricular_hypertrophy_sa.jpg